ตอบชัด จุดเด่นของพลาสติก PP และ PE มีอะไรบ้าง ?

พลาสติก วัสดุยอดนิยมที่มักนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของเล่น หรือข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ซึ่งในปัจจุบัน อุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกก็ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มีประเภทพลาสติกให้เลือกใช้มากมาย และประเภทของพลาสติกที่ได้รับความนิยมจากผู้ผลิตทั่วโลก ก็ต้องยกให้พลาสติก PP และพลาสติก PE แล้วพลาสติก PP กับ PE มีความแตกต่างกันอย่างไร นอกจากพลาสติก 2 ชนิดนี้ ยังมีประเภทอื่นที่น่าสนใจอีกไหม แล้วมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลย

ลักษณะและคุณสมบัติเด่นของพลาสติก PP

อยากรู้ว่าพลาสติก PP กับ PE ต่างกันอย่างไร อันดับแรก เราต้องมาทำความเข้าใจกับลักษณะเด่นของพลาสติกทั้ง 2 ประเภทนี้กันก่อน โดยเริ่มจากพลาสติก PP หรือ Polypropylene ซึ่งเป็นพลาสติกที่ได้จากการผลิตปิโตรเคมีขั้นปลาย คุณสมบัติเด่นอยู่ที่เรื่องความทนทานสูง ทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี รวมถึงทนต่อสารเคมีหลายชนิด เช่น กรด ด่าง น้ำมัน

นอกจากนี้ พลาสติก PP ยังมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก มีความยืดหยุ่นได้ดีในระดับหนึ่ง สามารถดัดงอได้โดยไม่หัก เหมาะกับการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความโค้งงอ ส่วนจุดหลอมเหลวก็สูงถึง 165 องศาเซลเซียส โดยพลาสติก PP เป็นพลาสติกชนิดที่ไม่มีสี สามารถปรับแต่งสีสันให้เป็นไปตามต้องการได้สะดวก และสามารถนำไปรีไซเคิลได้

ตัวอย่างการนำพลาสติก PP ไปใช้ประโยชน์มีอะไรบ้าง ?

• บรรจุภัณฑ์และภาชนะใส่อาหาร

• ของเล่นเด็ก

• ชิ้นส่วนภายในเครื่องใช้ไฟฟ้า

• ชิ้นส่วนรถยนต์

• เก้าอี้และโต๊ะพับ

ลักษณะและคุณสมบัติเด่นของพลาสติก PE

สำหรับพลาสติก PE นั้น มีชื่อเต็มว่า Polyethylene ผลิตจาก Eethylene Monomer ซึ่งได้มาจากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบหรือก๊าซธรรมชาติ เป็นพลาสติกที่มีความเหนียวสูง ยืดหยุ่นได้ดี ฉีกขาดยาก และกันน้ำได้ดี เหมาะกับการผลิตฟิล์ม ถุง และบรรจุภัณฑ์ ทนทานต่อสารเคมีหลายชนิด ทั้งสารเคมีที่เป็นกรด ด่าง น้ำมัน และตัวทำละลาย

พลาสติก PE ทนความร้อนได้ประมาณ 100 องศาเซลเซียส เป็นพลาสติกที่ไม่มีสี สามารถเลือกเติมสีสันได้ตามความต้องการ สามารถนำไปรีไซเคิลได้ มีคุณสมบัติในการเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี จึงนิยมนำไปผลิตฉนวนหุ้มสายไฟ และมีราคาค่อนข้างถูก เหมาะสำหรับการผลิตสินค้าที่ต้องการต้นทุนต่ำ

ตัวอย่างการนำพลาสติก PE ไปใช้ประโยชน์มีอะไรบ้าง ?

• ฉนวนหุ้มสายไฟและวัสดุหุ้มเครื่องใช้ไฟฟ้า

• อุปกรณ์ทางการเกษตร เช่น ฟิล์มคลุมดิน ท่อส่งน้ำ

• ฟิล์มห่ออาหารและบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร

• ขวดพลาสติก

• เฟอร์นิเจอร์และของเล่นเด็ก

สรุปชัด พลาสติก PP กับ PE แตกต่างกันอย่างไร ?

จากคุณสมบัติเด่นของพลาสติก PP และ PE ที่เรากล่าวถึงในข้างต้น คงเห็นกันแล้วว่าพลาสติกแต่ละประเภทมีจุดแข็งที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่าพลาสติก PP กับ PE แตกต่างกันอย่างไร เราขอสรุปให้เห็นภาพ ดังนี้

การขึ้นรูป

พลาสติก PP สามารถขึ้นรูปได้ด้วยวิธีการอัดรีด เป่า หล่อ และฉีด ส่วนพลาสติก PE สามารถขึ้นรูปได้ในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นวิธีอัดรีดที่ทำได้ยากกว่า

ความสามารถในการทนความร้อนและความเย็น

พลาสติก PP มีความสามารถในการทนความร้อนได้ดีกว่าพลาสติก PE เพราะทนความร้อนได้สูงถึง 165 องศาเซลเซียส ส่วนความสามารถในการทนความเย็นค่อนข้างใกล้เคียงกัน

น้ำหนัก

เมื่อเปรียบเทียบในปริมาณที่เท่ากัน พลาสติก PP มีน้ำหนักเบากว่าพลาสติก PE เล็กน้อย

ความยืดหยุ่น

พลาสติก PE มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานและเหนียวกว่า ส่วนพลาสติก PP มีความแข็งมากกว่า

การนำไปใช้ประโยชน์

โดยทั่วไป พลาสติก PP นิยมใช้ในการทำภาชนะบรรจุอาหาร แก้วน้ำ กล่องใส่ของ ส่วนพลาสติก PE ใช้ทำถุงพลาสติก ขวดบรรจุ ท่อส่งน้ำ ฉนวนหุ้มสาย โฟมเบาะรองนั่ง กล่าวได้ว่ามีข้อดีกันคนละแบบ เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานที่แตกต่างกันนั่นเอง

นอกเหนือจาก PP และ PE พลาสติกมีกี่ชนิด อะไรบ้าง ?

ในอุตสาหกรรมผลิตพลาสติกยุคนี้ มีการนำพลาสติกหลายประเภทเข้ามาใช้ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการมากที่สุด แล้วนอกจากพลาสติก PP และ PE จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

พลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate)

PET เป็นพลาสติกใสที่แข็งแรง น้ำหนักเบา ทนแรงกระแทก ความร้อนและกรดได้ดี นิยมนำมาผลิตขวดพลาสติกบรรจุน้ำอัดลม เครื่องดื่ม เสื้อผ้า และเป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์อาหาร

พลาสติก PVC (Polyvinyl Chloride)

จุดเด่นของ PVC ต้องยกให้ความยืดหยุ่น ทนทาน สามารถขึ้นรูปได้หลายวิธี ใช้ผลิตท่อประปา สายไฟ พื้น หลังคา บานหน้าต่าง ฟิล์มห่อหุ้มสินค้า และของเล่นเด็ก

พลาสติก HDPE (High Density Polyethylene)

HDPE เป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนแรงกระแทก ต้านทานสารเคมีได้ดี สามารถนำมาผลิตขวดพลาสติกแบบหนา ถังน้ำมัน ท่อส่งน้ำ และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ได้

พลาสติก LDPE (Low Density Polyethylene)

จุดเด่นของพลาสติก LDPE คือมีความยืดหยุ่นสูง สามารถขึ้นรูปได้ง่าย นิยมนำมาผลิตถุงพลาสติก หุ้มฉนวนสาย โฟมบรรจุภัณฑ์ และฟิล์มยืดพลาสติก

พลาสติก PS (Polystyrene)

พลาสติก PS นิยมนำมาใช้ทำบรรจุภัณฑ์โฟม กล่องใส่อาหาร ถ้วยกาแฟ เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง แตกหักง่าย

เมื่อรู้แล้วว่าพลาสติกมีกี่ประเภท อะไรบ้าง หากท่านเป็นผู้ประกอบการที่อยากได้กล่องพลาสติก สายรัดพลาสติก PP รวมทั้งผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทอื่น ๆ คุณภาพสูง สามารถเลือกชมสินค้าและกดสั่งซื้อสะดวกผ่านช่องทางเว็บไซต์ MMP มั่นใจได้ในคุณภาพสินค้าทุกชิ้น พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-741-8444 และ LINE Official @mmpcorp

แหล่งอ้างอิง

• ประเภทและการใช้งาน. สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2567 จาก https://www.mtec.or.th/bio-plastic/what-is-plastic/plastic-usage.html