“แป้ง” นับเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการประกอบอาหารและขนมนานาชนิด โดยทั่วไปมักพบแป้งในส่วนของพืชที่มีการสะสมอาหาร เช่น เมล็ด ราก ลำต้น ฯลฯ เมื่อนำมาผ่านกรรมวิธีการบดหรือโม่ ทั้งแบบเเห้งและเเบบเปียก ก็จะได้แป้งที่มีลักษณะหรือคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามชนิดของพืชที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบ ซึ่งอาหารหรือขนมจะมีรสชาติอร่อยได้นั้น ผู้ทำต้องเลือกใช้แป้งให้เหมาะสมและถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแป้งมีหลายชนิด อาจสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้ได้ บทความนี้สามารถช่วยให้ความกระจ่างแก่ผู้อ่านได้ว่าแป้งแต่ละชนิดมีลักษณะอย่างไร รวมทั้งเหมาะสำหรับการทำอาหารหรือขนมประเภทใด
แป้งข้าวเจ้า
ผลิตจากเมล็ดข้าวเจ้า เนื้อสัมผัสมีความหยาบและสากเล็กน้อย เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะขาวขุ่นร่วน ถ้าทิ้งให้เย็นจะจับตัวเป็นก้อน เหมาะสำหรับทำขนมที่ต้องการความอยู่ตัวและไม่เหนียวหนืด เช่น ขนมชั้น ขนมตาล ลอดช่อง ขนมขี้หนู ขนมครก เป็นต้น ส่วนอาหารคาวที่ต้องใช้แป้งข้าวเจ้า เช่น หอยทอด ขนมกุยช่ายทอด ขนมจีน เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ และเกี้ยมอี๋
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก kapook http://bit.ly/3btPHk3
แป้งข้าวเหนียว
ผลิตจากเมล็ดข้าวเหนียว เนื้อสัมผัสมีความหยาบและสากมากกว่าแป้งข้าวเจ้า เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะเหนียวและมีสีขุ่นข้น เหมาะสำหรับทำขนมที่ต้องการความเหนียวเกาะตัว เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถั่วแปบ บัวลอย ขนมต้ม ขนมเหนียว ขนมบ้าบิ่น เป็นต้น
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จากhttp://bit.ly/2LLRu9e
แป้งมันสำปะหลัง
ผลิตจากหัวมันสำปะหลัง เนื้อสัมผัสมีความละเอียดและลื่นมือ เมื่อสุกตัวแป้งจะเหนียวหนืด มีสีใส เหมาะสำหรับทำขนมที่ต้องการให้มีความเหนียวใสและขึ้นเงา แต่มักคืนตัวเมื่อเย็นลง จึงมักนิยมนำแป้งมันสำปะหลังไปผสมกับแป้งชนิดอื่นเพื่อให้ขนมมีความเหนียวนุ่มมากขึ้น เช่น ขนมชั้น ขนมปลากริมไข่เต่า ทับทิมกรอบ ขนมฟักทอง เต้าส่วน เป็นต้น
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก naibann http://bit.ly/2LIPaQF
แป้งข้าวโพด
ผลิตจากเมล็ดข้าวโพด มีลักษณะเป็นเป็นผงสีขาวเหลืองนวล มีสัมผัสที่เนียนและลื่นมือ เมื่อทำให้สุกเนื้อแป้งจะข้นใสและไม่คืนตัว จึงนิยมนำมาผสมกับอาหารที่ต้องการความอยู่ตัว เช่น ทำน้ำราดหน้า ขนมตะโก้ ไส้ขนมต่างๆ เป็นต้น
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก http://bit.ly/39lNgxv
แป้งมันฮ่องกง
ผลิตจากมันฝรั่ง เมื่อสุกตัวแป้งจะเหนียวข้นและสีใสกว่าแป้งมันสำปะหลังหรือแป้งข้าวโพด เมื่อเย็นตัวลงก็ไม่คืนตัวง่าย นิยมนำมาทำน้ำราดหน้า
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก kapook http://bit.ly/3buJW5R
แป้งสาลี
ผลิตจากเมล็ดข้าวสาลี มีลักษณะเป็นผงมีสีขาว เนื้อสัมผัสเนียนลื่นมือ เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะร่วนเหลว ไม่อยู่ตัว แป้งสาลีในท้องตลาดแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
🔸แป้งเค้ก มีลักษณะโปร่งเบา เนื้อแป้งเนียนละเอียด ดูดซับน้ำไม่ดี มักใช้ทำขนมเค้ก เนื่องจากทำให้ได้เนื้อเค้กที่นุ่มฟู รวมทั้งทำขนมสาลี่ ขนมปุยฝ้าย ขนมกลีบลำดวน
🔸แป้งขนมปัง ตัวแป้งมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างหยาบ และมีสีขาวนวลเข้มมากกว่าแป้งชนิดอื่น ดูดซับน้ำดี ค่อนข้างเหนียวและยืดหยุ่น นิยมใช้ทำขนมปังชนิดต่างๆ เช่น เดนิช พิซซ่า โรตี ปาท่องโก๋
🔸แป้งสาลีอเนกประสงค์ ตัวแป้งมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างหยาบแต่น้อยกว่าแป้งขนมปัง ราคาถูกมีความเหนียวปานกลาง นิยมนำมาทำแพนเค้ก คุ้กกี้ พาย โดนัท กะหรี่พัฟ หรือนำไปชุบอาหารเพื่อทอด
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก http://bit.ly/3nK24v7
แป้งถั่วเขียว
ผลิตจากเมล็ดถั่วเขียว เนื้อแป้งสากมือเล็กน้อย เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะข้นค่อนข้างใส เมื่อพักให้เย็นจะค่อนข้างอยู่ตัวและเหนียวเด้ง เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ต้องการความใสอยู่ตัว เช่น ขนมลืมกลืน ลอดช่องแก้ว ซาหริ่ม ขนมตะโก้ ขนมเรไร เป็นต้น
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก krua https://bit.ly/3nCM79V
แป้งเท้ายายม่อม
ผลิตจากหัวมันเท้ายายม่อม ซึ่งเก็บเกี่ยวได้ปีละครั้ง ทำให้แป้งชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง ตัวแป้งมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สีขาวเป็นเงา เนื้อสัมผัสหยาบ ต้องนำมาบดให้ละเอียดก่อนใช้ทำอาหารหรือขนม เมื่อสุกตัวแป้งจะข้น เหนียวหนืด ใส และคืนตัวยาก ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ขนมนุ่ม ใส ดูเงางาม จึงนิยมนำมาใช้ร่วมกับแป้งชนิดอื่น แล้วนำไปทำขนมที่ต้องการความใสความสวยงาม เช่น ใช้แป้งข้าวเจ้าผสมแป้งเท้ายายม่อมทำขนมเปียกปูน เป็นต้น
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จากkrua https://bit.ly/3qc0AuX
ได้ทราบชนิดและความแตกต่างของแป้งแต่ละประเภทแล้ว
ในการใช้งานควรเลือกใช้ให้ถูกต้อง เพื่อให้อาหารหรือขนมที่ทำนั้นมีคุณภาพดีและมีรสชาติที่อร่อย
เก็บรักษารสชาติความอร่อยของอาหารเมนูแป้งให้ยังคงคุณภาพน่ากินอยู่เสมอ ด้วยแรปอาหาร จาก M Wrap ที่ยึดเกาะแนบติดภาชนะได้ง่าย ช่วยรักษาความสดและยืดอายุอาหารได้นาน ไม่ส่งกลิ่นรบกวนในตู้เย็น โดยสามารถนำมาเข้าไมโครเวฟได้ทันที! สนใจติดต่อเบอร์โทร. 02-741-8444 และ LINE @mmpcorp
תגובות